ช่วงแรกและสงครามโลกครั้งที่ 1 ของ อาร์เอ็มเอส แอควิเทเนีย

เอชเอ็มเอชเอส แอควิเทเนีย (HMHS Aquitania) ในฐานะเรือพยาบาล ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1เอชเอ็มที แอควิเทเนีย (HMT Aquitania) ในฐานะเรือลำเลียงพล ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1

วันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1914 อาร์เอ็มเอส แอควิเทเนีย ได้ออกเดินทางเที่ยวปฐมฤกษ์ ภายใต้คำสั่งของกัปตันวิลเลียม โทมัส เทิร์นเนอร์ (William ThomasTurner) และถึงนครนิวยอร์กในวันที่ 5 มิถุนายน [2][13] การมาถึงนิวยอร์กทำให้เรือลำนี้ได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างมาก[23] ในการเดินทางครั้งนี้ เรือได้บรรทุกผู้โดยสารประมาณ 1,055 คน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของความจุทั้งหมด นี่เป็นเพราะความเชื่อโชคลางทำให้บางคนไม่กล้าเดินทางไปกับเรือ[ต้องการอ้างอิง] ความเร็วเฉลี่ยสำหรับการเดินทางระยะทาง 3,181 ไมล์ทะเล (5,891 กม.; 3,661 ไมล์) ซึ่งวัดจากลิเวอร์พูลไปจนถึงเรือทอดสมอที่ช่องแคบแอมโบรส อยู่ที่ 23.1 นอต (42.8 กม./ชม.; 26.6 ไมล์/ชม.) โดยมีการหยุดเรือ 5 ชั่วโมงเนื่องจากมีหมอกและภูเขาน้ำแข็งอยู่ใกล้ ๆ[24] และเรือยังสามารถวิ่งได้เกิน 25 นอตในช่วงสั้น ๆ นอกจากนี้ ปริมาณการใช้ถ่านหินของเรือยังต่ำกว่าเรือลูซิทาเนีย และมอริทาเนีย อย่างมาก ผู้โดยสารหลายคนรู้สึกสนุกกับการเดินทาง ในการเดินทางกลับ เรือได้บรรทุกผู้โดยสารทั้งหมด 2,649 คน ซึ่งเป็นสถิติสำหรับเรือเดินสมุทรของอังกฤษที่ออกจากนิวยอร์ก[25]

เมื่อมาถึงท่าเรือหลักของเธอ เธอได้รับการแก้ไขเล็กน้อย ซึ่งคำนึงถึงการสังเกตที่เกิดขึ้นระหว่างการข้ามมหาสมุทรสองครั้งแรก (เป็นเรื่องปกติสำหรับเรือเดินสมุทรหลังจากการเดินทางรอบแรก) [25] มีการเดินทางอีก 2 รอบในช่วงครึ่งหลังของเดือนมิถุนายนและตลอดเดือนกรกฎาคมของปีนั้น สถาปนิกของเรือ ลีโอนาร์ด เพสเกตต์ (Leonard Peskett) ได้อยู่บนเรือระหว่างการเดินทางเพื่อสังเกตข้อบกพร่องและสิ่งที่ควรปรับปรุง โดยรวมแล้วมีผู้โดยสารทั้งหมด 11,208 คนเดินทางบนเรือระหว่างการข้ามมหาสมุทร 6 ครั้งแรกของเธอ อาชีพของเธอถูกขัดจังหวะกะทันหันจากการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งทำให้เธอต้องออกจากการบริการผู้โดยสารเป็นเวลา 6 ปี[26]

ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1914 อาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันท์ แห่งออสเตรียถูกลอบปลงพระชนม์ และในไม่ช้าโลกก็เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 เรือแอควิเทเนียถูกดัดแปลงให้เป็นเรือพาณิชย์ลาดตระเวนติดอาวุธในวันที่ 5 สิงหาคม 1914 ซึ่งเป็นข้อกำหนดในการออกแบบ และได้เริ่มถูกส่งไปลาดตระเวนในวันที่ 8 สิงหาคม

ในวันที่ 22 สิงหาคม เธอได้ชนกับเรือที่ชื่อ แคนาเดียน หลังจากนั้นไม่นาน กองทัพเรือก็ตระหนักว่าเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่มีราคาที่สูงเกินไปที่จะใช้งานเป็นเรือลาดตระเวน ในวันที่ 30 กันยายน เธอได้รับซ่อมแซม ปลดอาวุธ และกลับไปประจำการกับคิวนาร์ด ไลน์ดังเดิม[27][4]

หลังจากไม่ได้ใช้งานมาระยะหนึ่ง ในฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ. 1915 เธอถูกเรียกตัวโดยกองทัพเรือและดัดแปลงเป็นเรือลำเลียงพล และออกเดินทางไปยังดาร์ดะแนลส์ บางครั้งก็วิ่งคู่กับเรือ บริแทนนิก หรือ มอริทาเนีย ทหารประมาณ 30,000 คนถูกส่งขึ้นเรือไปยังสนามรบระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคมของปีนั้น[27] ต่อมาเรือแอควิเทเนีย ถูกดัดแปลงเป็นเรือพยาบาลในระหว่างการทัพดาร์ดะแนลส์ [2][28] ในปี 1916 ซึ่งเป็นปีที่เรือธงของไวต์สตาร์ และหนึ่งในคู่แข่งหลักของ แอควิเทเนีย คือ บริแทนนิก ได้อับปางลง แอควิเทเนีย ถูกส่งกลับไปยังแนวรบ และในปี 1917 ก็ถูกนำไปจอดที่โซเลนท์ [2][29]

ในปี 1918 ภายใต้การคำสั่งของกัปตันเรือคนใหม่ เจมส์ ชาร์ลส์ (James Charles) เรือลำนี้ได้กลับมาขนส่งทหาร โดยลำเลียงกองทหารอเมริกาเหนือไปยังอังกฤษ และยังมีการทาสีลายพรางให้กับเรือ หรือลายพรางแบบ Dazzle

ในระหว่างการเดินทาง 9 ครั้ง เรือได้ขนส่งทหารไปทั้งหมดประมาณ 60,000 คน ในช่วงเวลานี้ แอควิเทเนีย ได้ชนกับเรือ ยูเอสเอส ชอว์ (USS Shaw) ทำให้หัวเรือขาดออกจากกัน อุบัติเหตุดังกล่าวคร่าชีวิตลูกเรือชาวอเมริกันไปหลายสิบคน [30]

หลังสิ้นสุดสงคราม ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1918 เรือแอควิเทเนีย ถูกปลดประจำการจากราชการทหาร เธอชนกับเรือบรรทุกสินค้า ลอร์ดดัฟเฟริน (Lord Dufferin) ของอังกฤษ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1919 ทำให้เรือลอร์ดดัฟเฟรินอับปาง และเรือแอควิเทเนีย ก็ได้ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเรือที่อับปาง[31]

ใกล้เคียง

อาร์เอ็มเอส ไททานิก อาร์เอ็มเอส โอลิมปิก อาร์เอ็มเอส ควีนแมรี อาร์เอ็มเอส คาร์เพเทีย อาร์เอ็มเอส มอริเทเนีย อาร์เอ็มเอส ลูซิเทเนีย อาร์เอ็มเอส แอควิเทเนีย อาร์เอ็มเอส ควีนเอลิซาเบธ 2 อาร์เอ็มเอส ควีนเอลิซาเบธ อาร์เอ็มเอส ควีนแมรี 2

แหล่งที่มา

WikiPedia: อาร์เอ็มเอส แอควิเทเนีย http://www.maritimequest.com/liners/aquitania_data... http://thegreatoceanliners.com/articles/aquitania/ http://chroniclingamerica.loc.gov/search/pages/res... http://clydeships.co.uk/view.php?official_number=&... http://www.markchirnside.co.uk/rms_aquitania_inter... https://www.chriscunard.com/history-fleet/cunard-f... https://www.chriscunard.com/qe2/qe2-history/ https://chroniclingamerica.loc.gov/lccn/sn83016689... https://chroniclingamerica.loc.gov/lccn/sn89051168...